บ้าน – คอนโด จองแล้วเปลี่ยนใจ ได้เงินคืนไหม? ถ้ายกเลิกสัญญาจะต้องเสียอะไรบ้าง?

บ้าน – คอนโด จองแล้วเปลี่ยนใจ ได้เงินคืนไหม? หลายคนน่าจะเคยได้ยินว่า เวลาเปลี่ยนไป ใจคนเราก็เปลี่ยนตามครับ ไม่เฉพาะแค่เรื่องความรัก…เดี๋ยวสิ จะดราม่าทำไม เราเป็นเพจแนวบ้านช่องห้องหับนะ! เข้าเรื่องดีกว่า คืองี้ครับ เพื่อน ๆ เคยสงสัยกันไหม สมมติเราไปจองคอนโดหรือจองบ้านโครงการนึงมา เพราะรู้สึกว่าเฮ้ย! นี่มันคือสุดยอดตัวเลือกที่ดีที่สุดเท่าที่เราสามารถหาได้ในตอนนี้ ก็เลยตัดสินใจจองไป พร้อมทำสัญญาเรียบร้อยสบายใจ แต่จู่ ๆ ดันไปเจอโครงการใหม่ที่ดีกว่า คุ้มค่ามากกว่าในหลายด้าน ก็เกิดข้อสงสัยมากมายว่า ถ้าทำสัญญาไปแล้ว ยกเลิกไปจะมีผลอะไรตามมาไหม? เงินค่าจอง หรือผ่อนดาวน์ที่จ่ายไป จะได้คืนหรือเปล่า? แล้วถ้าไม่อยากจะเสียเงินต้องทำอย่างไร? ถ้าอยากรู้ว่าคำตอบจะเป็นยังไง ตามไปอ่านต่อด้านล่างเล้ยยย

เงินจองและเงินค่าทำสัญญา

โดยปกติแล้ว เวลาเรา หรือใครก็ตามที่กำลังจะ จองซื้ออสังหาฯ โครงการจะขอเงินมัดจำเราจำนวนหนึ่ง ซึ่งก็แล้วแต่ว่าโครงการนั้น คิดอย่างไร รวมไปถึงค่าทำสัญญา เพื่อการันตีว่าผู้ซื้อสนใจจริง ๆ ถ้าเกิดลูกค้าเปลี่ยนใจ คุยกันมาตั้งนาน พอถึงวันจะโอนบ้าน หรือวันที่ต้องไปตรวจรับบ้านก่อนโอน จู่ ๆ ก็ไม่เอาแล้ว… สิ่งที่ลูกค้าจะเสียคือเงินค่าจอง และเงินค่าทำสัญญา ซึ่งโครงการสามารถทำได้ เพราะมีระบุไว้ในสัญญาที่เราตกลงกันไว้ มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับประเภทของโครงการครับ

เงินผ่อนดาวน์

เชื่อว่าเงินก้อนใหญ่ถือว่าเป็นปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้หลายคนลังเลถ้าจะเปลี่ยนโครงการ เนื่องจากเงินผ่อนดาวน์ อาจมีจำนวนที่ค่อนข้างสูง เพราะเป็นเงินที่ให้ลูกค้าผ่อนก่อนจนถึงวันโอน จากนั้นเหลือเท่าไหร่ก็เอาเงินผ่อนดาวน์ไปหักลบกับราคาเต็มของทรัพย์ที่เราซื้อไป ถ้าเกิดเปลี่ยนใจไม่เอาโครงการนี้แล้ว เงินผ่อนดาวน์ทั้งหมดที่จ่ายไป อาจจะถูกหักในบางส่วนหากมีการเสียหายเกิดขึ้น และผู้ขายพิสูจน์ความเสียหายนั้นได้ว่าผู้ซื้อทำให้เกิด ความเสียหายในที่นี้อาจหมายถึงโอกาสทางการขายก็เป็นได้ แต่ถ้าไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น หรือโครงการพิสูจน์ไม่ได้ว่าผู้ซื้อผิดจริง เงินดาวน์ไม่สามารถยึดไปได้

ที่มา : maid-dee

รวมความรู้เกี่ยวกับเรื่องบ้านทุกชนิด การตกแต่งบ้าน การทำสวนในบ้าน suanlaebaan